ในปี 2019 นั้น ถือได้ว่าเป็นปีแห่งการเริ่มต้นของยุคที่ทุกๆคนสามารถแสดงออกซึ่งความคิดและจิตวิญญาณ ดังนั้นเทรนด์สีแรกที่ออกสู่สาธารณะในปี 2019 ได้แก่ สี Dusty Pink ซึ่งเป็นสีชมพูเนื้อเบาโดยเข้ามามีบทบาทในการเชื่อมโยงความรู้สึกของคนทุกกลุ่ม ในอดีตสีชมพูอาจจะเป็นตัวแทนของความเป็นเพศหญิง แต่ในปัจจุบันสีชมพูถูกนำมาใช้ในสินค้าพรีเมี่ยมมากมาย และไม่ได้จำกัดเพียงแค่สินค้าสำหรับผู้หญิงเท่านั้น ตัวอย่างเช่น iPhone สีโรสโกลด์, สินค้าแฟชั่นสำหรับผู้ชายและผู้หญิงแบรนด์ Acne Studio เป็นต้น อีกตัวอย่างหนึ่งก็คือ Museum of Ice Cream ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ไอศกรีมสีชมพูที่ซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา โดยสีชมพูเฉดนี้มักบ่งบอกถึงความเท่าเทียมกันบนพื้นฐานความเป็นมนุษย์นั่นเอง

ภาพสีเฉด Dusty Pink

สีของโซฟาที่ใช้เฉด Dusty Ponk ในการออกแบบ

          โทนสีถัดไปคือสีแดงก่ำ Tango red บ่งบอกถึงการหลอมรวมของวัฒนธรรมที่ไม่มีที่สิ้นสุด นอกจากนี้สีแดงเฉดนี้ยังให้ความรู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปยังอดีต อย่างภายในงานมิลาน ดีไซน์วีค 2018 ก็ได้มีผลงานมากมายที่นำสีแดงเฉดนี้มาเป็นหัวใจของงานย้อนยุค

          โทนสีเขียว Bristol Green เป็นสีแห่งค่ากลางใหม่ที่จะเป็นที่นิยมในปี 2019 เช่นเดียวกัน เนื่องจากอิทธิพลของพลาสติกและขยะจำนวนมากในทะเล ทำให้สีเขียวเฉดนี้กลายเป็นสินค้าใหม่ที่ยกระดับความรู้สึก โดยเชื่อมโยงผู้คนเข้ากับเรื่องของทรัพยากรที่เรากำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ โดยในปี 2019 แบรนด์สินค้าแฟชั่นจะกลายเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมสีเขียวทางทะเล อย่าง Adidas G-Star Raw และ Stella McCartney ที่ขยับฐานการผลิตมาเป็นสินค้ารีไซเคิล

          เฉดต่อไปคือสีเหลือง Freesia โดยสำหรับในปี 2019 นี้ สีเฉดนี้บ่งบอกถึงความกล้าแสดงออกที่จะแตกต่าง กล้าลองผิดลองถูกจนกลายเป็นความนิยมในรูปแบบใหม่ที่มาพร้อมกับอิสระทางความคิด โดยแบรนด์เสื้อผ้าแบรนด์ดังเช่น RedValentino ก็ได้ใช้สีเหลืองเฉดนี้ในการออกแบบหน้าร้าน เพื่อให้ดูสบายตาและสีสัน

          เฉดสีคล้ายปะการังอย่าง สีส้มอมแดงเฉด Hot Coral ก็ถือว่าเป็นอีกสีที่จะนิยมใช้ในวงการแฟชั่นและด้านอื่นๆในปี 2019 โดยให้ความรู้สึกเหมือนย้อนกลับไปยังฮอลลีวูดยุคนีออน โดยเฉดสีนี้ ยังบ่งบอกถึงการทดลองอะไรใหม่ๆอีกด้วย

          เฉดสีเทา Smoke ที่มาจากสีของคอนกรีต ปูนเปลือย บ่งบอกถึงความ Classic ที่สามารถเข้าถึงได้สำหรับทุกคน โดยให้ความรู้สึกที่เรียบง่ายและไม่หรูหรา จับต้องได้

          โทนสีสุดท้ายคือสี Metallic ที่ในอุตสาหกรรมสินค้าได้ใช้โทนสีนี้ในการกลบจุดด้อย และสร้างจุดเด่นคือความแวววาว บ่งบอกถึงความคิดสร้างสรรค์ในการนำความไม่สมบูรณ์มาทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีได้เช่นกัน

ขอบคุณภาพประกอบจาก Google และแหล่งข้อมูลเบื้องต้นจาก TCDC ค่ะ